การลงทุนกับกลุ่มกองทุนใดให้ผลตอบแทนท่านได้มากที่สุด เสี่ยงน้อยที่สุด มั่นคงที่สุด ปลอดภัยที่สุด ???
" อัตราดอกเบี้ย "
>ไม่เคยชนะ<
" อัตราเงินเฟ้อ "
เมื่ออัตราส่วนไม่สมดุล ส่วนผสมไม่ลงตัว
จึงเกิด
เป็นยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง ข้าวยากหมากแพง ..ทำงานมาก แต่ได้เงินน้อย หรืออาจขาดทุน เพราะค่าเงินผันผวน ควบคุมไม่ได้ เกิดการแย่งชิงทางการค้า
เป็นยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง ข้าวยากหมากแพง ..ทำงานมาก แต่ได้เงินน้อย หรืออาจขาดทุน เพราะค่าเงินผันผวน ควบคุมไม่ได้ เกิดการแย่งชิงทางการค้า
จึงเกิดเป็นกลุ่มการลงทุนด้วยกองทุน ซึ่งบริหารเงินลงทุนของท่านด้วยนักการเงินมืออาชีพ เพื่อเสริมส่วนต่าง สร้างสมดุลของสถานะทางการเงิน โดยกลุ่มทุนจาก
หลากหลายองค์กร เช่น ภาคธนาคาร สถาบันการเงิน หรือ กลุ่มบริษัทประกันชีวิต ซึ่งแต่ละองค์กรทำการรวบรวมเงินทุนจากภาคประชาชนมาบริหารและสร้างเป็นผลกำไรกลับคืนสู่นักลงทุนโดยมีภาครัฐให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวก และสร้างความเชื่อมั่นโดยการรับประกันความเสียหายให้กับกองทุนที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาล
หลากหลายองค์กร เช่น ภาคธนาคาร สถาบันการเงิน หรือ กลุ่มบริษัทประกันชีวิต ซึ่งแต่ละองค์กรทำการรวบรวมเงินทุนจากภาคประชาชนมาบริหารและสร้างเป็นผลกำไรกลับคืนสู่นักลงทุนโดยมีภาครัฐให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวก และสร้างความเชื่อมั่นโดยการรับประกันความเสียหายให้กับกองทุนที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาล
" มือสมัครเล่น VS มืออาชีพ "
ซึ่งแต่ละองค์กรได้ทำการสร้างเงื่อนไขทางการตลาดหรือจุดขายให้กับสินค้าหรือกองทุนของตนเอง เช่น เช่น เช่น ลูกค้าเงินกู้จากภาคธนาคารจำเป็นต้องซื้อกรมธรรณ์เพื่อคุ้มครองหนี้ LT (ไม่ใช่ภาคบังคับ แต่ต้องซื้อนั่นเอง) กรมธรรณ์บังคับซื้อประเภทนี้ประมาณว่า คุ้มครองตลอดอายุสัญญาเงินกู้ ตายเมื่อไหร่ปลดหนี้คืนเจ้าหนี้ และครอบครัวของลูกหนี้ก็ได้สินทรัพย์นั่นไป ด้วยการปลดหนี้โดยการจากไปของผู้ทำประกัน
สำหรับกองทุนจากภาคประกันชีวิต ก็สร้างเงื่อนไขทางการตลาดด้วย กรมธรรณ์ที่ตอบแทนผู้ลงทุนด้วยการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ รวมถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการแปรรูปเงินภาษีที่ลูกค้าต้องจ่ายทุกๆปี ให้กลายเป็นเงินส่วนตัว และ มีระยะเวลาไม่นานในการรอคอย ไม่ตายก็ได้เงินคืนพร้อมผลกำไร กรมธรรณ์ประเภทนี้ก็ไม่ใช่ภาคบังคับเช่นกัน และก็บังคับไม่ได้ด้วย
แต่ใช้กลยุทธ์เรื่องผลประโยชน์ตอบแทนทางการค้า และ เสน่ห์ของกลยุทธ์นี้คือผลตอบแทน และ ไม่ต้องตายก็ได้เงินคืน
การรู้จักประวัติของกลุ่มกองทุนที่จะเข้ามาดูแลเงินลงทุนของเราก็สำคัญมากๆ เช่น ประเภทการจดทะเบียนของกองทุน ประเภทกิจการของกองทุน จดทะเบียนได้2แบบ คือ
1.จดแบบประกันชีวิต ..แบบนี้เมื่อรับทำแล้วยกเลิกกรมธรรณ์ไม่ได้ ไม่ว่าท่านจะเจ็บป่วยหนักหนาสาหัสขนาดไหน ประกันภัยแบบนี้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และความรับผิดชอบสูงกว่ามาก
2.จดแบบประกันวินาศภัย ..แบบนี้กลไกแบบเดียวกับประกันรถยนต์ ถ้าทรัพย์สินหรือสุขภาพร่างกายของท่านเสียหายเยอะ บริษัทที่รับทำประกันภัยให้ท่านมีสิทธิในการขอยกเลิกกรมธรรณ์ได้
**สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้เป็นช่องว่างในการหาประโยชน์จากผู้ประกอบการได้ เพราะผลประโยชน์ของผู้รับประกันภัยอยู่ที่ส่วนต่างของความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเอง ในประเทศไทย ณ.ปัจจุบันนี้ มีไม่ถึง 5บริษัท ที่จดทะเบียนแบบประกันชีวิต
กลยุทธ์ต่างๆเหล่านี้ นักลงทุนจำเป็นต้องรู้ ถ้าท่านรู้และเข้าใจกลไกการทำงานของมัน ท่านจะสามารถบริหารเงินทุนของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ท่านสามารถเลือกลงทุนในกลุ่มกองทุนใดก็ตาม ที่สามารถสนองความต้องการและตอบแทนท่านด้วยผลกำไรที่เหมาะสมกับการเลือกลงทุน ..กำไรจากทรัพย์สิน หรือ กำไรจากเงินลงทุนและความคุ้มครอง
**ตัวอย่างเงินเฟ้อแบบชาวบ้านๆ!!
ปี 2526 ก๋วยเตี๋ยว ชามละ 5฿
ปี 2546 ก๋วยเตี๋ยว ชามละ 25฿
ปี 2556 ก๋วยเตี๋ยว ชามละ 35฿
ปี 2586 ก๋วยเตี๋ยว ชามละ ???
**เงิน 1,000฿ ในวันนี้ของท่าน จะสามารถทานก๋วยเตี๋ยวได้กี่ชามในอีก 30ปีข้างหน้า??